วิธีเก็บผักให้อยู่ได้นานขึ้น?ผักต่างๆ ควรเก็บในตู้เย็นอย่างไร?บทความนี้เหมาะสำหรับคุณ
1. เก็บผักไว้ในตู้เย็นได้ 7 ถึง 12 วัน
ผักต่างๆ จะเน่าเสียในอัตราที่ต่างกัน และการรู้เวลาโดยประมาณจะช่วยให้คุณแน่ใจได้ว่าจะใช้มันก่อนที่ผักจะเน่าเสียจำไว้ว่าเมื่อคุณซื้อผักและจดบันทึกว่าผักนั้นอยู่ในตู้เย็นของคุณนานแค่ไหน
2. เก็บผักร่วมกับผักอื่นที่คล้ายคลึงกัน
หากคุณเก็บผักไว้ในคอนเทนเนอร์ Produce Saver ในตู้เย็น อย่าผสมผักประเภทต่างๆ ไว้ในภาชนะเก็บผักและผลไม้ใบเดียวหากคุณไม่ใช้Fresh Keeper ให้เก็บผักประเภทต่างๆ เช่น ผักราก ผักใบเขียว ตระกูลกะหล่ำ (เช่น บรอกโคลีหรือดอกกะหล่ำ) ไขกระดูก (บวบ แตงกวา) ผักตระกูลถั่ว (ถั่วเขียว ถั่วลันเตาสด) ไว้ด้วยกัน
3. แยกผักที่เหี่ยวเฉาออกจากผักที่เน่าด้วยลิ้นชักกันความชื้น
ตู้เย็นส่วนใหญ่มีลิ้นชักความชื้นสูงและลิ้นชักความชื้นต่ำพร้อมการตั้งค่าที่ช่วยให้คุณควบคุมระดับความชื้นได้ผักส่วนใหญ่อยู่ในลิ้นชักที่มีความชื้นสูงเพราะผักจะเริ่มเหี่ยวเฉาลิ้นชักนี้ล็อคความชื้นโดยไม่ให้ผักชื้นมากเกินไป
ลิ้นชักเก็บความชื้นต่ำส่วนใหญ่จะประกอบด้วยผลไม้ แต่ผักบางชนิด เช่น มะเขือเทศและมันฝรั่ง ก็เก็บได้ที่นี่
4. เก็บผักใบเขียว เช่น ผักกาดหอมและผักโขม โดยเก็บให้แห้งและบรรจุไว้
ล้างใบออกก่อนเพื่อกำจัดแบคทีเรียที่อาจทำให้เน่าเสียปล่อยให้แห้งสนิทก่อนเก็บในตู้เย็นควรห่อผักใบเขียวด้วยผ้ากระดาษแล้วใส่ลงในถุงหรือภาชนะที่ปิดสนิท
5. ตัดหน่อไม้ฝรั่งแล้วห่อด้วยกระดาษชำระชุบน้ำหมาดๆ
วางในภาชนะสุญญากาศให้ห่างจากผักอื่นๆ ที่อาจสัมผัสกับความชื้นได้
6. เก็บรากผัก เช่น สควอชฤดูหนาว หัวหอม หรือเห็ดไว้ในที่เย็นและมืด
สิ่งเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องแช่เย็นต้องแน่ใจว่าพวกมันแห้งและไม่โดนแสงแดดโดยตรง เพราะอาจทำให้แบคทีเรียหรือเชื้อราเจริญเติบโตได้
7. เก็บผักของคุณให้ห่างจากผลผลิตที่ผลิตเอทิลีน
ผักและผลไม้บางชนิดผลิตก๊าซเอทิลีน ซึ่งอาจทำให้ผักอื่นๆ เน่าเสียเร็วขึ้น แม้ว่าบางชนิดจะไม่ได้รับผลกระทบก็ตามเก็บผักที่ไวต่อเอทิลีนให้ห่างจากผักที่ผลิตเอทิลีน
ผักและผลไม้ที่ผลิตเอทิลีน ได้แก่ แอปเปิ้ล อะโวคาโด กล้วย ลูกพีช ลูกแพร์ พริกไทย และมะเขือเทศ
ผักที่ไวต่อเอทิลีน ได้แก่ หน่อไม้ฝรั่ง บรอกโคลี แตงกวา มะเขือยาว ผักกาดหอม พริก สควอช และซูกินี
8. ล้างผักให้แห้งก่อนนำไปแช่ตู้เย็น
การล้างจะช่วยขจัดแบคทีเรียและสารปนเปื้อนอื่นๆ ออกจากผิวผักวางผักไว้บนกระดาษชำระหรือบนเคาน์เตอร์ให้แห้งอย่างไรก็ตาม ก่อนที่คุณจะวางมันลงในกล่องเก็บของ ต้องแน่ใจว่ามันแห้งสนิทเพื่อที่ความชื้นส่วนเกินจะไม่ทำให้ผักเริ่มเน่าเสีย
เวลาโพสต์: 14 ต.ค.-2022